ระบบรายงานผลการป้องกัน สกัดกั้น ปราบปรามและจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

Avatar
Avatar

ระบบรายงานผลการป้องกัน สกัดกั้น ปราบปรามและจับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

Avatar

ลงทะเบียนเข้าใช้งาน

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)

1. บทนำ

  เพื่อความสะดวกในการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการทุกท่านที่เข้ามาใช้บริการเว็บไซต์ (ของหน่วยงาน) ทางเว็บไซต์จึงได้จัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ เช่น อีเมล์แอดเดรส (Email Address) ชื่อ (Name) ที่อยู่หรือที่ทำงาน (Home or Work Address) รหัสไปรษณีย์ (ZIP Code) หรือหมายเลขโทรศัพท์ (Telephone Number) เป็นต้น

2. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย

  นโยบายนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับกรมการปกครองในปัจจุบันและที่อาจมีในอนาคต ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยกรมการปกครอง รวมถึงคู่สัญญาหรือบุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ กรมการปกครอง (“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”) ภายใต้บริการต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ระบบ แอปพลิเคชัน เอกสาร หรือ บริการในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดย กรมการปกครอง (รวมเรียกว่า “บริการ”)
   นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้ว กรมการปกครอง อาจกำหนดให้มีคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) สำหรับบริการของกรมการปกครอง เพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้บริการ ได้ทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผลระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีในบริการนั้นเป็นการเฉพาะเจาะจง
   ทั้งนี้ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและนโยบายนี้ให้ถือตามความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบริการนั้น

3. คำนิยาม

  1. ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่ง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
  3. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อเผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
  4. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ กรมการปกครอง เก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย
  5. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  6. ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ กรมการปกครอง เก็บรวบรวม

 กรมการปกครอง เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้
  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ กรมการปกครอง เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงาน ลงนามในสัญญา เอกสาร ทำแบบสำรวจ การยื่นคำขอ การพิจารณาอนุญาต หรือ บริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดย กรมการปกครอง หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับ กรมการปกครอง ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดย กรมการปกครอง เป็นต้น
  2. ข้อมูลที่ กรมการปกครอง เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจในความรับผิดชอบของกรมการปกครอง เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ กรมการปกครอง ด้วยการใช้ คุกกี้(Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ กรมการปกครอง เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอม จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่ กรมการปกครอง เช่น การเชื่อมโยงบริการ ดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการเพื่อประโยชน์สาธารณะแบบเบ็ดเสร็จแก่เจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลเอง การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นในฐานะที่ กรมการปกครอง มีหน้าที่ตามพันธกิจในการดำเนินการจัดให้มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางเพื่อสนับสนุนการดำเนินการ ของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงจากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้
  นอกจากนี้ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่ กรมการปกครอง ดังนี้ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศของ ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตามแต่กรณีให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้น หากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่ กรมการปกครอง
  ทั้งนี้ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในการให้บริการของ กรมการปกครอง อาจเป็นผลให้กรมการปกครอง ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน

5. ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

กรมการปกครอง เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความเหมาะสมและตามบริบท ของการให้บริการ ทั้งนี้ตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายให้อำนาจไว้เช่น
  ฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่กรมการปกครองใช้ประกอบด้วย
  5.1 เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐของกรมการปกครอง
  5.2 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
  5.3 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
  5.4 เป็นการจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคค
  5.5 เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
  5.6 เพื่อการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์วิจัยหรือสถิติที่สำคัญ
  5.7 ความยินยอมของท่าน 

7. คุกกี้

  กรมการปกครอง เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ ภายใต้ความดูแลของกรมการปกครองหรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้เพื่อการ ดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของ กรมการปกครอง และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับ ความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของ กรมการปกครอง และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของ กรมการปกครอง ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือ ลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์(Web Browser) ของท่าน

8. ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์คนไร้ความสามารถและคนเสมือนไร้ความสามารถ

 กรณีที่ กรมการปกครอง ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม เป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณียกเว้นเป็นกรณีที่กรมการปกครองมีอำนาจดำเนินการได้ตามที่กฎหมายกำหนด
  กรณีที่ กรมการปกครอง ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่า กรมการปกครอง ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยยังมิได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณีดังนี้กรมการปกครอง จะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเว้นแต่มีกฎหมายให้อำนาจดำเนินการในเรื่องนั้นไว้

9. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

 กรมการปกครอง ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามภารกิจในอำนาจหน้าที่ของกรมการปกครอง

10. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

 ในบางกรณีกรมการปกครอง อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศสิงคโปร์หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริการของกรมการปกครอง ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม
  อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จัดทำนโยบายฉบับนี้คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้ มีประกาศกำหนดรายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนั้น เมื่อ กรมการปกครอง มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางกรมการปกครอง จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่
  1) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้กรมการปกครองต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
  2) ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐาน การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
  3) เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับ กรมการปกครอง หรือเป็นการทำตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
  4) เป็นการกระทำตามสัญญาของ กรมการปกครอง กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
  5) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
  6) เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

11. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  กรมการปกครอง จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลนั้นยังมีความจำเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตาม กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ ดังกล่าวแล้ว กรมการปกครอง จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่คณะกรรมการ หรือกฎหมายประกาศกำหนดหรือตามมาตรฐานสากล
  อย่างไรก็ดีในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรมการปกครอง ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

12. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง


 กรมการปกครอง อาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของกรมการปกครองซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอ บริการในลักษณะต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์(Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น
  การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น กรมการปกครอง จะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของ กรมการปกครอง ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่ กรมการปกครอง มอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ กรมการปกครอง มอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของกรมการปกครอง เท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้

13. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล


  กรมการปกครอง มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยเจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้ว หรือตามที่ระเบียบกฎหมายกำหนดเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของกรมการปกครอง อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่
  นอกจากนี้เมื่อ กรมการปกครอง มีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น กรมการปกครอง จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

14. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก


 14.1 การเชื่อมโยงยังเว็บไซต์หรือบริการอื่นเป็นเพียงการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ ผู้ใช้บริการเท่านั้น กรมการปกครองมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีอำนาจควบคุมรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือตลอดจนความรับผิดชอบในเนื้อหาข้อมูลของเว็บไซต์หรือบริการนั้น ๆ และกรมการปกครองไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาใด ๆ ที่แสดงบนเว็บไซต์หรือบริการอื่นที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์หรือบริการของกรมการปกครองหรือต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าว
  14.2 กรณีต้องการเชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของกรมการปกครอง ผู้ใช้บริการสามารถเชื่อมโยงมายังหน้าแรกของเว็บไซต์กรมการปกครองได้โดยแจ้งความประสงค์เป็นหนังสือ แต่หากต้องการเชื่อมโยงมายังหน้าภายในของเว็บไซต์นี้จะต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากกรมการปกครองเท่านั้น และในการให้ความยินยอมดังกล่าว กรมการปกรองขอสงวนสิทธิที่จะกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ไว้ด้วยก็ได้ในการที่เว็บไซต์ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของกรมการปกครอง กรมการปกครองจะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาใด ๆ ที่แสดงบนเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของกรมการปกครอง หรือต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เว็บไซต์นั้น

15. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


 กรมการปกครอง ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับและให้คำแนะนำในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการประสานงานและให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

16. สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562


 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลายประการ ทั้งนี้สิทธิดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อกฎหมายในส่วนของสิทธินี้มีผลใช้บังคับ โดยรายละเอียดของสิทธิต่าง ๆ ประกอบด้วย
  1) สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง รับสำเนาและขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ กรมการปกครอง เก็บรวบรวมไว้โดยปราศจากความยินยอมของท่าน เว้นแต่กรณีที่ กรมการปกครอง มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่การใช้สิทธิของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  2) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน หากท่านพบว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน ท่านมีสิทธิขอให้แก้ไขเพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
  3) สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้กรมการปกครอง ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ต่อไป ทั้งนี้การใช้สิทธิลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด
  4) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ในกรณีดังต่อไปนี้
   ก) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ กรมการปกครอง ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
   ข) ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
   ค) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ กรมการปกครอง ได้แจ้งในการเก็บรวบรวม แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลประสงค์ให้กรมการปกครอง เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมาย
   ง) เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ กรมการปกครอง กำลังพิสูจน์ถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
   5) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน เว้นแต่กรณีที่กรมการปกครอง มีเหตุในการปฏิเสธคำขอโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น กรมการปกครอง สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของ กรมการปกครอง)
  6) สิทธิในการขอถอนความยินยอม ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่ กรมการปกครอง ในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าความยินยอมนั้นจะได้ให้ไว้ก่อนหรือหลังพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีผลใช้บังคับ) ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรักษาโดย กรมการปกครอง เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายให้กรมการปกครอง จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลต่อไปหรือยังคงมีสัญญาระหว่างท่านกับ กรมการปกครอง ที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
  7) สิทธิในการขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก กรมการปกครอง ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงอาจขอให้กรมการปกครอง ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ทั้งนี้การใช้สิทธินี้จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด

17. โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


 การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษทางวินัยตามกฎเกณฑ์ ของกรมการปกครอง (สำหรับเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของ กรมการปกครอง)หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่ท่านมีต่อกรมการปกครอง และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมทั้งกฎหมายลำดับรอง กฎ ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง

18. การร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแล


 ในกรณีที่ท่านพบว่า กรมการปกครอง มิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่ได้รับการแต่งตั้ง โดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือตามกฎหมาย ทั้งนี้ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว กรมการปกครอง ขอให้ท่านโปรดติดต่อมายัง กรมการปกครอง เพื่อให้กรมการปกครอง มีโอกาสได้รับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อนในโอกาสแรก

19. การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล


 กรมการปกครอง อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางเว็บไซต์www.dopa.go.th โดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่ อย่างไรก็ดีกรมการปกครอง ขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างสม่ำเสมอ ผ่านแอปพลิเคชั่น หรือช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่ กรมการปกครอง ดำเนินการโดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ กรมการปกครอง
  การรับบริการของ กรมการปกครอง ภายหลังการบังคับใช้นโยบายใหม่ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในนโยบายใหม่แล้ว ทั้งนี้โปรดหยุดการเข้าใช้งานหากท่านไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในนโยบายฉบับนี้และโปรดติดต่อมายัง กรมการปกครอง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป

20. การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ


 หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ กรมการปกครอง หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้หรือท่านต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่
  1) ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
   - ชื่อ: กรมการปกครอง
   - สถานที่ติดต่อ: ถนนอัษฎางค์แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กทม. 10200
   - ช่องทางการติดต่อ: webmaster@dopa.go.th
   - หมายเลขโทรศัพท์: 02-2241-0151-8

ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งาน *